พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 12-18 มีนาคม 2564

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 12-18 มีนาคม 2564

ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 12–18 มี.ค. 64 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่่าสุด 17-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนาน ของแสงแดด 6-8ชั่วโมง

  • อากาศร้อนและแห้งในระยะนี้เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการระบาดของเพลี้ยอ่อนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ โดยเฉพาะในผักตระกูลกะหล่่าและผักกาด เกษตรกรควรเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนเกษตรกรที่ต้องเตรียมพื้นที่ส่าหรับเพาะปลูกพืชรอบใหม่ควรงดการเผาเศษวัสดุที่เหลือใช้ แต่ควรใช้วิธีไถกลบ
    แทน เพราะการเผาอาจลุกลามจนเกิดเป็นอัคคีภัยได้ นอกจากนี้ควันไฟยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และท่าให้การมองเห็นลดลง ซึ่งเป็นอุปสรรค์ต่อการใช้รถใช้ถนน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 12-14 มี.ค. 64อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่่าสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 15-18 มี.ค. 64อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่่าสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65 % ความยาวนานของแสงแดด 6-9ชั่วโมง

  • จากสภาพที่อากาศร้อนและแห้งในตอนกลางวัน ท่าให้การระเหยของน้่าบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรคลุมดิน บริเวณแปลงปลูกและโคนต้นพืช รวมทั้งวางแผนการให้น้่าเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ควรเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจ่าพวกเพลี้ยในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักไว้ด้วย ส่าหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์เช่น
    โค สุกร และไก่ เป็นต้น ควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันสัตว์เครียดจนเจ็บป่วยได้

ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 12–18 มี.ค. 64 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่่าสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานของแสงแดด 6-9 ชั่วโมง

  • มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจ่าพวกหนอนและเพลี้ยในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักโดยศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ใบและยอดอ่อนเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ ส่าหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้โปร่ง อากาศ
    ถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้่าดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียด จนอ่อนแอ และเจ็บป่วยได้

ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 12-18 มี.ค. 64 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่่าสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความยาวนานของแสงแดด 5-7ชั่วโมง
-จากสภาวะอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจ่าพวกหนอน โดยดูแลบริเวณพื้นที่เพาะปลูกให้โล่งเตียน และไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดยเฉพาะเปลือกและผลที่เน่าเสียร่วงหล่นไว้ภายในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่่าสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานของแสงแดด 6-8 ชั่วโมง

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานของแสงแดด 6-8 ชั่วโมง

  • อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราแป้งในเงาะ ซึ่งอยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน นอกจากนี้เกษตรกรควรเฝ้า ระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยเฉพาะชาวสวนยางพารา ควรท่าแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th/agromet.php

2 Likes