พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 19-25 มีนาคม 2564
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. 64 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันโดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 19-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 10-20 กม. / ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่งลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 10-30 กม. / ชม. และในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. 64 อากาศเย็นในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 10-20 กม. / ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65% ความยาวนานแสงแดด 6-8 ชม.
- สำหรับอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืนเกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่ายส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่แก่ดีแล้วเกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวไม่ควรปล่อยทิ้งไว้กลางแจ้งเนื่องจากในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองซึ่งอาจทำให้ผลผลิตเปียกชื้นเสียหายได้รวมทั้งควรผูกยึดค้ำยันถึงและลำต้นของไม้ผลให้มันคงแข็งแรงเพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักและต้นโค่นล้มเมื่อมีลมแรง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 19 20 มี.ค. 64 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 10-20 กม. / ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่งลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 10-30 กม. / ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. 64 มีอากาศเย็นอุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 10-20 กม. / ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65% ความยาวนานแสงแดด 6-8 ชม.
- ระยะนี้อากาศร้อนกับมีแดดจัดเกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานหากมีความจำเป็นต้องทำงานกลางแจ้งควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดเพื่อป้องกันผิวไหม้และดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำส่วนในช่วงวันที่ 21 22 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองเกษตรกรไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งขณะฟ้าคะนองส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำให้เหมาะสมกับชนิดของสัตว์น้ำที่เลี้ยงรวมทั้งดูแลปริมาณน้ำให้สมดุลกับจำนวนสัตว์น้ำที่มีอยู่และไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อเลี้ยงโดยตรงเพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. 64 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันลมใต้ความเร็ว 10-20 กม. / ชม ส่วนในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. 64 อากาศร้อนโดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 10-30 กม. / ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. 64 มีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 10-20 กม. / ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70% ความยาวนานแสงแดด 7-8 ชม
- ระยะนี้อากาศแห้งเกษตรกรควรระวังและป้องกันอัคคีภัยโดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตรรวมทั้งไม่ควรจุดไฟหากมีความจำเป็นต้องจุดไฟควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งานสำหรับในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองเกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงต้นไม้ใหญ่และป้ายโฆษณาสูง ๆ ขณะลมแรงส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรงเพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่ายและหลังจากฝนตกเกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเป็นการเติมออกซิเจนให้กับน้ำ
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. 64 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 10-30 กม. / ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. 64 มีอากาศเย็นอุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตรความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% ความยาวนานแสงแดด 6-7 ชม.
- สำหรับฝนที่ตกไม่สม่ำเสมอในระยะนี้เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ไม้ผลและพืชผักซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชซะงักการเจริญเติบโตผลผลิตลดลงและต้อยคุณภาพส่วนในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองเกษตรกรควรผูกยึดค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักและต้นโค่นล้มเมื่อมีลมแรงส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรงเพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่ายและหลังจากฝนตกเกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเป็นการเติมออกซิเจนให้กับน้ำ
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 19-21 มี.ค. 64 มีฝนเล็กน้อยบางแห่งลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม. / ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 22-25 มี.ค. 64 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรงบางแห่งลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม. / ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% ความยาวนานแสงแดด 6-8 ซม
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ในช่วงวันที่ 19-21 มี.ค. 64 มีฝนเล็กน้อยบางแห่งลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม. / ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 มี.ค. 64 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรงบางแห่งลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ระยะนี้สภาพอากาศแห้งเกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยโดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตรและหลีกเลี่ยงการจุดไฟหากมีความจำเป็นต้องจุดไฟควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งานสำหรับปริมาณฝนที่มีน้อยกว่าน้ำระเหยในระยะนี้ทำให้น้ำในดินลดลงเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะพืชที่มีระบบรากตื้นเช่นพืชไร่และพืชผักเป็นต้นรวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดเช่นเพลี้ยและไรต่างๆในพืชสวนและพืชผักซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชทำให้ต้นพืชทรุดโทรมผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th/agromet.php