ใบพริกบริเวณยอด มีลักษณะแบบนี้เกิดจากอะไรครับ
ตามครับ
หลักๆมีเพลี้ยไฟระบาด ร่วมกับไรขาวพริก หาสารเคมีที่มีประสิทธิภาพกำจัดเพลี้ยไฟและไรขาวพริกได้ เช่น กลุ่ม 6อะบาเมกติน อีมาเมกติน กลุ่ม 2ฟิโพรนิล กลุ่ม 23สไปโรมีไซเฟน หรือเลือกสารเฉพาะมาพ่น
เพลี้ยไฟดื้อยาสุดๆการจัดการเพลี้ยไฟควรใช้วิธีผสมผสาน ดังนี้
1.วิธีกล ติดกับดักกาวเหนียวสีเหลือง เพื่อจับตัวเต็มวัยจะลดการวางไข่ได้
2.การใช้สารชีวภัณฑ์ พ่นเชื้อราบิวเวอเรีย แต่ควรเป็นขยายเอง ไม่ควรไปซื้อเนื่องจากส่วนใหญ่เชื้อไม่พอ
3.ใช้สารเคมี ใช้สารตามกลุ่มกลไกการออกฤทธิ์ดังนี้
-กลุ่ม1คาร์โบซัลแฟน เบนฟูราคาร์บ โพรไทโอฟอส
-กลุ่ม2ฟิโพรนิล
-กลุ่ม3เดลทาเมทริน แลมบ์ดาไซฮาโลทริน ไบเฟนทริน
-กลุ่ม4อิมิดาโคลพริด ไทอะมีทอกแซม อะซีทามิพริด(กลุ่มนี้เพลี้ยไฟดื้อยามาก)
-กลุ่ม5สไปนีโทแรม(ดีที่สุดกับเพลี้ยไฟ)
-กลุ่ม6อะบาเมกติน อีมาเมกติน
-กลุ่ม15โนวาลูรอน ลูเฟนนูรอน
-กลุ่ม23สไปโรมีไซเฟน สไปโรเตตระแมต
กรณีพ่นสารสูตรอื่นๆที่ไม่ใช่สูตร EC ควรบวกไวท์ออยหรือปิโตรเลียมออยจะเสริมประสิทธิภาพได้
หมายเหตุ ควรมีสาร 3-4กลุ่มสลับหมุนเวียนเพื่อป้องกันเพลี้ยไฟดื้อยา โดยพ่นสารกลุ่มเดียวกันซ้ำได้2-3ครั้ง แต่ไม่เกิน15วัน
ไรขาวพริกการทำลายในพริกใบจะหงิกงองุ้มลง ถ้าเป็นตระกูลส้มผิวจะเป็นขี้กลากสีขาวแตกเป็นร่างแห ปัจจุบันจะดื้อยาเร็วมากเพราะ7วันก็ออกลูกแล้ว ดังนั้นควรมียา3-4กลุ่มใช้หมุนเวียนไม่ให้ซ้ำกลุ่มกัน สารที่มีประสิทธิภาพกับไรขาวพริก
ก. กลุ่มยาพื้นที่ใช้กำจัดแมลงแต่จะควบคุมปริมาณไรขาวได้
-กลุ่ม1อีไทออน ไดคลอร์วอส ไตรคลอร์ฟอน ไตรอะโซฟอส
-กลุ่ม2ฟิโพรนิล
-กลุ่ม6อะบาเมกติน อีมาเมกติน
-กลุ่ม15โนวาลูรอน ลูเฟนนูรอน(ฆ่าตัวอ่อน คุมไข่ในท้องตัวแม่
ข. กลุ่มที่ใช้กำจัดไรแดงแต่ใช้กำจัดไรขาวได้ด้วย ได้แก่
-กลุ่ม12เฟนบูทาตินออกไซด์ โพรพาไกต์ เตตระไดฟอน
-กลุ่ม19อามีทราซ
-กลุ่ม21ไพริดาเบน เฟนไพรอคซิเมต ทีบูเฟนไพแรด ฟีนาซาควิน
-กลุ่ม23สไปโรมีไซเฟน
-กลุ่มอื่นๆ ไวท์ออย ปิโตรเลียมออย กำมะถัน(ซัลเฟอร์)
หมายเหตุ ในฉลากยากำจัดแมลงมีหมายเลขกลุ่มกำกับไว้เรียบร้อยแล้ว